วงมโหรี

               วงมโหรี  คือ  วงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีครบทั้ง  4 ประเภท  คือ ดีด สี
     ตี และเป่า  ซึ่งเครื่องดนตรีดังกล่าวมาจากวงปี่พาทย์   และวงเครื่องสายรวมกัน   โดย
     กำหนดว่าเครื่องดนตรีในวงปี่พาทย์ทั้งเครื่องดำเนินทำนอง และเครื่องประกอบจังหวะ
     บางชิ้น  เช่น ระนาดเอก ฆ้องวง ฉิ่ง  จะต้องย่อขนาดให้เล็กลง อีกทั้งไม้ตีทุกประเภทก็
     ต้องใช้ไม้นวม ทั้งนี้เพราะต้องการให้มีเสียงนุ่มนวล และไม่ดังจนเกินไป เพราะเครื่อง -
     ดนตรีจากวงเครื่องสายเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงเบา  การย่อขนาด  และใช้ไม้นวมตี 
     จะทำให้เสียงที่ดังออกมามีความไพเราะกลมกลืนเข้ากันได้ดี  ในส่วนของเครื่องกำกับ
     จังหวะหน้าทับในวงมโหรีจะใช้เป็น โทน - รำมะนา  หรือกลองแขกก็ได้  วงมโหรีที่เป็น
     มาตรฐานในปัจจุบันมีอยู่  3  ขนาด  คือ วงมโหรีวงเล็ก วงมโหรีเครื่องคู่   และวงมโหรี
     เครื่องใหญ่

 
 
วงมโหรีวงเล็ก

     ประวัติ
               วงมโหรีวงเล็ก  มีวิวัฒนาการมาโดยลำดับจากวงมโหรีเครื่องสี่ในสมัยสุโขทัย  เป็น
     มโหรีเครื่องหกในสมัยอยุธยา   และสันนิษฐานว่า    วงมโหรีวงเล็กน่าจะได้รับการพัฒนา
     ขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยการนำวงปี่พาทย์เครื่องห้ามาประสมกับวงเครื่องสาย
     วงเล็ก  แล้วนำซอสามสายจากวงมโหรีเครื่องหก  ในสมัยอยุธยาเพิ่มเข้าไป  จึงกลายเป็น
     วงมโหรีวงเล็กอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้
               เครื่องดนตรีที่ประสมอยู่ในวงมโหรีวงเล็ก ประกอบด้วย


1.  ซอสามสาย
2.  ซอด้วง    
3.  ซออู้    
4.  จะเข้    
5.  ระนาดเอกมโหรี   
6.  ฆ้องวงใหญ่มโหรี
7.  ขลุ่ยเพียงออ 
8.  โทน - รำมะนา
9.  ฉิ่ง 
10.  ฉาบเล็ก         

1  
1   
1   
1  
1  

1
1
1
1

คัน
คัน
คัน
ตัว
ราง
วง
เลา
คู่
คู่
คู่

     โอกาสในการนำวงมโหรีวงเล็กไปใช้
               
วงมโหรีวงเล็กนิยมบรรเลงสำหรับความบันเทิง และการขับกล่อม เช่นเดียวกับวง
     เครื่องสาย และไม่นิยมบรรเลงประกอบพิธีกรรม หรือประกอบการแสดงด้วย